Advertising8

google Ads

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

นอกจากเมาไม่ขับแล้ว อย่าเมา บนเครื่องบินด้วย

เห็นข่าวเรื่องผู้โดยสารเมาแล้วทะเลาะวิวาทกันบนเครื่องบินไหมครับ

มีหลายประเด็นที่น่ากล่าวถึงเพื่อเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆรับทราบข้อมูลกรณีต้องเดินทางโดยเครื่องบิน และอยากดื่ม แอลกอฮอลล์

ขอให้คิดสักนิด ก่อนดื่ม
ขอให้ดื่มแต่พอดี อย่าคิดว่าเป็นของฟรีแล้วดื่มไม่ยั้ง
ขอให้หยุดดื่มทันที เมื่อพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินปฏิเสธที่จะให้บริการเครื่องดื่มมึนเมาแก่ท่าน

อ่านต่อนะครับ มีประโยชน์

บริษัท หรือ สายการบินชั้นนำทั่ว ๆ ไป แทบทุกสายการบินจะไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่ซื้อหามาเองมาดื่มบนเครื่องบินระหว่างเที่ยวบิน
อ่านแล้วอาจจะแปลกใจว่า

“ ทำไม ฉันซื้อมาเองทำไมจะดื่มไม่ได้ “ คำถามนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ครับ

ทั้ง ๆ ที่สายการบินน่าจะชอบที่ไม่ต้องเปลืองเหล้า เบียร์ หรือไวน์ของบริษัท
น่าจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ นะ
(จะเห็นว่าตรงนี้เริ่มแตกต่างจากสายการบินโลว์คอสทั้งหลาย ที่เราอยากกินอะไร ต้องเตรียม ต้องหาไปเอง ถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อบนเครื่องบิน)

ความจริงมีอยู่ว่า
สายการบินชั้นนำ หรือที่เรียกกันว่า Premium ไม่ได้คิดถึงเรื่องการประหยัดในเรื่องนี้ครับ แต่นึกถึงการให้บริการที่ดีตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก แต่นึกถึงความปลอดภัยโดยรวมของเที่ยวบินมากกว่าทุก ๆ สิ่งครับ (Yours Safety is Our Priority)

มันคือ อัลไล (วัยรุ่นนิดนึงครับ)

การห้ามผู้โดยสารนำของมึนเมาที่ซื้อหามาเองมาดื่มบนเครื่องบินนั้น
เป็นกฏกติกาของบริษัทหรือสารการบินชั้นนำที่มีมาตรฐานสากล แบบเดียวกับการบินไทย ที่ต้องการความปลอดภัย ความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสารบนเที่ยวบินครับ

" เราขอสงวนสิทธิที่จะให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอลแก่ผู้โดยสารที่อยู่ในอาการมึนเมา และผู้โดยสารที่อายุน้อยกว่า 18ปี และ ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มาดื่มเอง และให้ดื่มได้เฉพาะที่บริษัทฯ มีเตรียมไว้บริการบนเครื่องเท่านั้น” สำนวนประมาณนี้ครับ เวลาที่แอร์โฮสเตสประกาศบนเที่ยวบิน

 เพราะว่า ทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
จะมีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลผู้โดยสารทุก ๆ คน
และระงับการให้บริการแก่ผู้โดยสารที่มีอาการมึนเมา หรือ
ผู้โดยสารที่ไม่อยู่ในสภาพที่สมควรดื่มแอลกอฮอลล์
เช่น อายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือ ๑๘ ปี
หรือผู้โดยสารที่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศ
หรือผู้โดยสารที่จำเป็นต้องมีผู้ควบคุมความประพฤติเดินทางด้วยในทุก ๆ กรณี (รวมทั้งผู้คุมก็ถูกห้ามด้วย) เป็นต้น

สาเหตุก็เพราะว่าหากผู้โดยสารนำเครื่องดื่มของมีนเมามาทานเอง
พนักงานต้อนรับจะไม่สามารถประเมินและควบคุมปริมาณการดื่มเพื่อให้อยู่ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปจนเกินความมึนเมาได้ ไม่ใช่หวง ไม่ให้เพราะงก แต่ไม่ให้เพราะคุณเริ่มจะเมาแล้ว ดื่มมามากแล้ว เป็นต้น

คนที่มีอาการเมาสุรา อาจมีการแสดงออกของการมึนเมาได้หลาย ๆ แบบ เช่น อาจเอะอะ โวยวาย สร้างความรำคาญให้แก่ผู้อื่น หรือ ทำอันตรายต่อผู้อื่น และ/หรือ พนักงานต้อนรับ หรือทำลายข้าวของอุปกรณ์ต่าง ๆ บนเครื่องบินให้ได้รับความเสียหาย เช่น ไปเปิดประตูเครื่องบินระหว่างบินอยู่ หรือทุบกระจกหน้าต่าง เป็นต้น

ยิ่งถ้าเป็นการทำความเสียหายต่อระบบการบิน หรือทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย
จนกระทั่งเครื่องบินต้องเปลี่ยนเส้นทางลงฉุกเฉินเพื่อรักษาชีวิตของผู้บาดเจ็บ
หรือความปลอดภัยโดยรวมของเครื่องบินด้วยแล้ว เรื่องนี้จะมีโทษหนักมากครับ

เพราะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนกันไปหมด หรือมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของเค้า
เป็นคดีอาญานะครับ
และจะต้องถูกปรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดอีกด้วย เช่น

ค่าน้ำมันที่เปลี่ยนเส้นทาง ค่าการลงจอดที่สนามบินระหว่างทาง ค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ ค่าหมอ ค่าพยาบาล ค่าดำเนินการเพื่อนำเครื่องบินขึ้นใหม่ หรือแม้กระทั่งค่าเสียเวลาของผู้โดยสารท่านอื่น ๆ หากต้องการเป็นเจ้าทุกข์

รายละเอียดในแง่กฏหมาย ผมคงจะไม่กล่าวถึงครับ
ผมต้องการสื่อสารในด้านผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำมากกว่าครับ
เรื่องตัวบทกฏหมายต่าง ๆ นั้น จะเป็นรายละเอียดที่เจ้าหน้าที่อีกฝ่ายหนึ่งจะมารับช่วงต่อเพื่อเป็นเจ้าทุกข์หรือพยานให้แก่ผู้เสียหายต่อไปครับ

เราพูดข้ามขั้นตอนไปนิดนึงครับ
หากเกิดความวุ่นวาย ทะเลาะวิวาทกัน บนเครื่องบิน กัปตันหรือผู้ควบคุมอากาศยาน ณ ขณะนั้น สามารถสั่งจับกุมให้ผู้โดยสารอยู่ในความสงบ เพื่อไม่ให้กระทำการอันเกิดอันตรายต่อผู้โดยสารอื่นๆ และอากาศยานได้

ผู้โดยสารที่ก่อความวุ่นวาย ไม่ว่ากรณีใด ๆ ที่ส่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อเที่ยวบิน จะถูกดำเนินคดีอาญาภายใต้กฏหมายแห่งราชอาณาจักรไทย และพ่วงด้วยกฏหมายของประเทศที่เกิดเหตุระหว่างที่เครื่องบินบินอยู่ในน่านฟ้าประเทศนั้น ๆ ครับ

ดังนั้น
ถ้าเป็นไปได้ “อย่าเมา บนเครื่องบิน" เด็ดขาดครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น