Turbulence
เครื่องบินลอยอยู่บนอากาศได้ด้วยกระแสลมที่ผ่านปีก
การที่จะบินได้ราบเรียบนุ่มนวล Smooth as Silk
มีองค์ประกอบหลายอย่าง
นอกเหนือจากประสบการณ์และความปราณีตของนักบินในการบังคับเครื่องบินแล้ว
ปัจจัยหลัก คือ สภาพแวดล้อมในขณะนั้น ณ ที่บริเวณที่เครื่องบิน ๆ ผ่าน
เช่น การเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และการเปลี่ยนแปลงของทิศทางและความเร็วลม เป็นต้น
ถ้าระดับการเปลี่ยนแปลงของ ความกดอากาศ อุณหภูมิ ทิศทางและความเร็วลม มีอัตราการเปลี่ยนไม่มากนัก (Gradually Change)
เครื่องบินสามารถปรับทิศทางการบังคับเพื่อรองรับสถานะการณ์เหล่านั้นได้ไม่ยาก การสั่นสะเทือนจึงไม่รุนแรง
ทางการบินมีการแบ่งระดับการสั่นสะเทือน
เนื่องจากการบินผ่านสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงนี้ว่า Turbulence
ถ้าแปลเป็นไทย ก็ประมาณว่า "ความวุ่นวาย อลหม่าน โกลาหล หรือปั่นป่วน"
Turbulence เกิดได้หลายที่ หลายเวลา และหลายสาเหตุ อย่างเช่น ในก้อนเมฆชนิดต่าง ๆ จะมีความรุนแรงแตกต่างกันเมื่อเครื่องบินบินผ่าน
หรือบางทีอาจเป็น Clear Air Turbulence อากาศใส ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มีการสั่นสะเทือนเนื่องจากเป็น Ridge or Trough of Pressure Gradient เป็นร่องหรือเป็นสันที่เป็นช่วงที่เกิดการเปลี่ยนของความกดอากาศอย่างมาก (นึกภาพ หุบเหวหรือสันเขา ที่จะถูกแสดงในแผ่นที่เส้นระดับความสูงแบบแน่นๆ)
นักบินทุกคนจะต้องเรียนรู้เรื่องการอ่านแผ่นที่ และเรียนรู้เรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ (Meteorology) โดยเฉพาะเรื่องของเมฆ
เมฆมี อยู่ 10 ชนิด มีเมฆบางชนิด ที่ต้องหลีกเลี่ยง เช่น CB (Cumulonimbus) หรือเมฆฝนฟ้าคะนองที่เราเห็นเป็นแท่ง ๆ สูง ๆ
เมฆ CB อันตรายมาก เนื่องจากความไม่ Stable ของสภาพอากาศ ทั้งในแง่ของ ความกดอากาศ อุณหภูมิ ทิศทางและความเร็วลม ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรเหล่านี้อย่างมากด้วยเวลาที่รวดเร็ว แต่เมฆ CB นี่ก็ไม่ธรรมดา ด้วยความที่มันก่อตัวขึ้นสูงได้ถึงหลายหมื่นฟุต บางทีมันจึงซ่อนตัวอยู่ในเมฆชนิดอื่น ๆ จนมองด้วยสายตาไม่เห็น เราเรียกกรณีนี้ว่า Embeded CB นักบินต้องใช้เรดาห์ตรวจอากาศ (Weather Radar) ในการตรวจหาระหว่างทำการบิน
ย้อนกลับมาดูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเราเวลาบินผ่าน Unstable Air
การสั่นสะเทือนหรือ Turbulence แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ
Light Turbulence
ผู้โดยสารจะรู้สึกเขย่าเล็กน้อย ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดมากนัก แค่รู้สึกว่าไม่ราบเรียบ การให้บริการผู้โดยสารยังสามารถทำได้ (ถ้ามั่นใจว่าไม่แรงไปกว่านี้)
Moderate Turbulence
เริ่มมีความรู้สึกไม่สบายในการนั่ง อาจมีการเหวี่ยงแล้วรู้สึกว่าสายรัดเข็มขัดต้องดึงตัวเราติดกับเก้าอี้ไว้ แก้วน้ำเลื่อนเปลี่ยนที่
Severe Turbulence
ผู้โดยสารน่าจะรู้สึกอึดอัดเนื่องจากมีการเหวี่ยงมาก อาจมีตัวลอย ถ้าไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย (หลายคนคงจับเก้าอื้แน่น) น้ำกระฉอกแล้วหกออกจากแก้ว สิ่งของที่ไม่ได้รัดหรือยึดไว้ให้แน่นจะเคลื่อนย้าย
Extreme Turbulence
อันนี้แรงสุด ๆ นักบินจะไม่สามารถบังคับเครื่องบินได้ เหมือนโดนจับเขย่า สิ่งของในห้องโดยสารก็คงไม่ต้องพูดถึง
และถ้าเครื่องบินต้องอยู่ในสภาพของ extreme turbulence นานเกินไป
อาจเกิดการเสียหายของโครงสร้างเครื่องบิน (Structural Damage) เรียกง่าย ๆ ว่า เครื่องบินแตกหรือหัก
(ขึ้นอยู่กับสถาพความสมบูรณ์ของเครื่องบินและประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงของสายการบินด้วย)
Turbulence อาจหลีกเลี่ยงได้ ด้วยความรู้ ความสามารถ การสังเกตุ ความเข้าใจในข้อมูล และมาตรฐานในการทำการบิน ซึ่งหมายรวมถึง ประสิทธิภาพของนักบินในการทำการบินด้วย
และ Turbulence บางครั้ง อาจยากเกินกว่าที่จะคาดเดาว่า จะเกิดหรือไม่ และจะเกิดเมื่อไหร่ มีความรุนแรงแค่ไหน Turbulence ประเภทที่คาดเดาไม่ได้นั้น เกิดขึ้นไม่มากนัก แต่อาจจมีความรุนแรงสูงมากกว่าปกติหลายเท่า
ส่วนใหญ่ จะเป็น Turbulence ที่เรารู้และสามารถ detect ได้เราจึงสามารถหลบมันได้อย่างปลอดภัยหรือมีผลกระทบน้อยที่สุด
(ทั้งหมดที่เขียนมาไม่ได้มีเจตนา ชี้นำหรือคาดการอุบัติเหตุหรืออุบัติการณ์การบินที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินใดก็ตาม
หากไปพ้องหรือสัมพันธ์กับเที่ยวบินใดต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับ)
โลกร้อน
อากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากขึ้นครับ
ปลูกต้นไม้ ปลูกป่ากันเยอะ ๆ ลูกหลานอาจจะอยู่สบายขึ้นครับ
นอกเรื่องซะแล้ว
ขอช่วยโฆษณารายการดี ๆ เพื่อคนรักษ์สิ่งแวดล้อมครับ
รายการ “ธรรมชาติ มาหานคร” ทาง New TV ช่อง 18 (28) ทุกวันจันทร์ เวลา 21:30 น.
โดย อ.ศศิน เฉลิมลาภ
เครดิตภาพถ่าย
http://theweatherwiz.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น