Advertising8

google Ads

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

กว่าจะเป็นนักบินการบินไทย

กว่าจะเป็นนักบินการบินไทย
“ใคร ๆ ก็บินได้" จริงหรือ

ย้อนกลับไปก่อนหน้าตอนที่แล้ว ในช่วงก่อนการเป็นนักบินฝึกหัด 
การสอบคัดเลือกเพื่อเป็นนักเรียนทุนฝึกหัดของการบินไทย 
ข้อกำหนดในอดีตอาจจะแตกต่างจากปัจจุบันเล็กน้อย เช่น ข้อจำกัดด้านอายุ และความสามารถด้านภาษาอังกฤษ
(อ่านรายละเอียดข้อกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครได้ที่ http://www.tgpilotrecruitment.com )

หลัก ๆ โดยทั่วไปคือ จบปริญญาตรี สาขาใดก็ได้ เพื่อนในรุ่นผมก็จบหลากหลายสาขา ตั้งแต่ สัตว์แพทย์ วิศวะ สถาปัตย์ นิเทศน์  ฯลฯ

ขั้นตอนการสอบ (สมัยผม ประมาณปี 1991-1992)
แบ่งเป็น 5 ขั้นตอน คือ
1. การสมัครและตรวจคุณสมบัติผู้สมัคร 
(เนื่องจากมีข้อบังคับว่า หากผู้สมัครผ่านขั้นตอนสุดท้ายจนครบทุกขั้นตอนแล้ว จะไม่อนุญาตให้สอบใหม่ 
คือชีวิตนี้สอบได้ครั้งเดียวว่างั้น ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เช่น อาจต้องรอ 3 ปี 5 ปี 
แล้วแต่ว่าผ่านมาถึงขั้นตอนไหน จึงจะให้สมัครสอบใหม่ได้ ข้อกำหนดปัจจุบัน ขอให้อ่านตามลิงค์ด้านบน)
2. การสอบข้อเขียน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ (ปัจจุบัน มีเพิ่ม ความถนัดบางอย่างเข้าไปด้วย)
3. การตรวจร่างกาย ที่เวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ ดอนเมือง
4. การสอบสัมภาษณ์ กับกัปตันการบินไทย
5. การสอบ Aptitude test กับนักจิตวิทยาฝรั่ง เรียกสั้นๆ กันว่า สอบ professor แบ่งเป็น 2 วัน วันแรกเป็น paper test (สนุกมาก ผมชอบ) และการสอบตัวต่อตัว แบบกึ่งสัมภาษณ์เพื่อวัดผลหลายอย่างที่สัมพันธ์กับผลสอบก่อนหน้านี้ทั้งหมด และการวัดพื้นฐานพฤติกรรมทางสังคมและจิตวิทยา ตอนผมสอบ จะต้องคุยกับ prefessor เช้า 1 คน บ่าย 1 คน

ถ้าจะพูดถึงรายละเอียดต่าง ๆ แต่ละขั้นตอน ขั้นที่ควรพูดถึงคือ ขั้นที่ 4 และ 5 ครับ
ประสบการณ์ผม ในขั้นที่สี่ ค่อนข้างไม่มั่นใจ กัปตันถามอะไรก็ตอบไม่ได้ 
เพราะไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับเครื่องบินมาก่อนเลย รู้แต่ว่ามันบินได้ บินได้ยังไงก็ไม่เคยสนใจ 
รู้จักแต่หลอดทดลอง เครื่องชั่ง ตวง วัด สารเคมี แล้วก็ หินกับแร่ ต่าง ๆ 
กัปตันก็ส่ายหัว แล้วบอกคุณศึกษาเรื่องราวของการบินไทยมาบ้างไหมเนี่ย ผมตอบแบบตรงไปตรงมาว่า 
“เปล่าครับ ผมไม่ทราบว่าต้องศึกษาเรื่องไหน และไม่รู้ด้วยว่าจะสัมภาษณ์เกี่ยวกับอะไร”
วันนั้น กัปตันก็เลยเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นๆ แทน 
โดยเฉพาะเรื่องที่เราเขียนอยู่ในใบสมัคร
อย่างมีช่องหนึ่งในใบสมัครผมเขียนคำว่า “Sense of direction” 
ซึ่งตอนนั้นผมก็เขียนเอาจากความรู้สึก
กัปตันท่านหนึ่ง (มี 3 ท่าน) ก็เลยให้อธิบายว่าคุณหมายความว่าอะไร 
ผมก็เลยอธิบายว่า ผมอ่านแผนที่ได้ดี และเข้าใจเรื่องของทิศทาง เวลาเดินเลี้ยวลัดเลาะไปมาในป่า ก็ยังพอรู้ว่าทิศไหนเป็นทิศไหน
กัปตันอีกคนหนึ่งก็เลย ถาม ทำนองเหมือนจะตะโกน (ทำท่าดุดัน) ว่า
“งั้นห้องที่นั่งอยู่ตอนนี้ คุณบอกสิว่า ด้านไหนคือทิศเหนือ” 
ในใจก็สะดุ้งเล็กน้อย ว่า "ตะโกนทำไมว่ะ” แต่สมองก็สั่งการทันทีเหมือนกันว่า "คงอยากให้เราตกใจลืมคำถาม"
แต่ผมไม่หลงกล ยังคงตอบกลับไปแบบสุภาพว่า "ทิศที่อยู่ด้านหลังผมครับ” พร้อมกับชี้มือไปด้านหลังแบบมั่นใจ
(ผมมารู้ทีหลังว่า มันคือ Spatial Orientation เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่มีการสอบเพื่อวัดความสามารถด้านนี้ แต่ผมไม่มีความรู้เฉพาะทาง ผมก็เลยเขียนของผมเองว่า sense of direction แบบ fish fish snake snake)

ตอนที่ผมเองเป็นคนสอบสัมภาษณ์คนที่มาสมัคร เมื่อหลายปีก่อน 
การสอบสัมภาษณ์รอบกัปตันการบินไทย 
มีวัตถุประสงค์หลายอย่างครับ 
ลักษณะเหมือนนั่งคุยกัน 
เค้าต้องการดูหลาย ๆ ด้าน ทั้งบุคคลิกภาพ การพูด การจา ความมั่นอกมั่นใจเวลาตอบคำถาม อากัปกิริยา ต่าง ๆ การควบคุมสติ เพราะอาจจะมีการแกล้งดุดัน หรือขึ้นเสียงให้เราตกใจบ้าง เพื่อดูว่าเราจะแก้ไขสถานการณ์ยังไง และ ฯลฯ 
เค้าอาจจะดูผลคะแนนที่ได้จากการสอบในรอบที่ผ่าน ๆ มา 
กัปตันที่เป็นกรรมการสอบสัมภาษณืจะพิจารณาดูว่า ข้อดี ข้อด้อย ที่ได้จากผลการสอบของผู้สมัครว่าเป็นอย่างไรบ้าง 
การสอบรอบข้อเขียนในปัจจุบัน มีข้อสอบที่เป็น aptitude test รวมอยู่ด้วยซึ่งอาจจะวัดความสามารถด้านต่าง ๆ แบบเบื้องต้น เช่น short term mermory, spartial orientation, multi-tasking skill, และอื่น ๆ 

เมื่อผ่านรอบนี้ ก็จะไปถึงรอบที่ 5 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย

ในรอบสุดท้ายนี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกว่า อาชีพนี้มันมีอะไรน่าศึกษามากทีเดียว 
รอบสุดท้ายถือเป็นด่านหินของทุกๆ คน แต่สำหรับผมรู้สึกสนุกกับมันมากกว่า เพราะว่าเราอยากรู้ว่า เค้าต้องการวัดอะไรบ้าง
รอบนี้ ปีนั้น จำได้คร่าว ๆ ว่าผ่านเข้ามาเหลือประมาณ 200 คน จากกว่าพันคนที่สอบด้วยกันรอบแรก
สุดท้ายแล้ว ผ่านมาได้ 14 คน

ในอดีตไม่มีอินเตอร์เน็ตสะดวกสบายแบบสมัยนี้ การตรวจสอบว่า เราผ่านเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปหรือไม่ ต้องไปดูที่สำนักงานใหญ่การบินไทยเอง 
จำได้ว่า ตอนเข้าไปที่บริษัท ครั้งแรก ๆ รู้สึกตื่นตา ตื่นใจพอสมควร มีโมเดลเครื่องบินลำใหญ่ๆ ตั้งอยู่ 
ดูน่าสนใจอย่างมากสำหรับผมที่ไม่เคยสัมผัสวิทยาการด้านนี้มาก่อนเลย 
จะมีก็แค่เคยนั่งเครื่องบินมาครั้งเดียวในชีวิต ด้วยเครื่องลำเล็กๆ จากจังหวัดเลย (ไปสำรวจแหล่งทองคำที่ เลย และ หนองคาย  แล้วต้องรีบบินมากรุงเทพฯ เพื่อรายงานตัวเข้าเรียน ป.โท ที่จุฬา)

เขียนมาตั้งเยอะ ยังไม่ได้ตอบเลยว่า “ใคร ๆ ก็บินได้” จริงหรือ
อ่านแล้วรู้สึกยังไงครับ
โอกาสหน้าจะมาเขียนต่ออีกตอนเพื่อตอบคำถามนี้ครับ





-------------------------------------------------------------------------------
อ่านเรื่องก่อนหน้านี้

กว่าจะเป็นนักบินการบินไทย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10204207024518870&set=a.1118218958734.19645.1324823845&type=1

"กว่าจะเป็นกัปตันการบินไทย” ตอนแรก


“ทุกคนควรอ่านก่อนเครื่องบินบินขึ้น"


"ขึ้นเครื่องบิน อย่าเมาเหล้า"


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน


การบินในสภาพอากาศ ตอนที่ 3
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10204030301020893&set=a.1118218958734.19645.1324823845&type=1

การบินในสภาพอากาศ ตอนที่ 2
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10203964279730402&set=a.1118218958734.19645.1324823845&type=1

การบินในสภาพอากาศ ตอนที่ 1
https://www.facebook.com/Capt.sopon/posts/10203953296775835